บทที่ 03 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม
เพียงแค่กล่าวด้วยศรัทธาแรงกล้าว่า “La ilaha illa Allah, Muhammadur rasoolu Allah”บุคคลหนึ่งซึ่งเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามและกลายเป็นชาวมุสลิม (ฟังเสียง คลิกที่นี่). คำกล่าวนี้หมายความว่า “ไม่มีพระผู้เป็นเจ้า (เทพเจ้า) ที่แท้จริง นอกจากพระผู้เป็นเจ้า (พระอัลเลาะห์),1และพระมูหะหมัดคือผู้ถือสาร (พระศาสดา) ของพระผู้เป็นเจ้า” ในส่วนแรกคำว่า “ไม่มีพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงอื่นใดนอกจากพระผู้เป็นเจ้า” หมายความว่าไม่มีผู้ใดมีสิทธิ์ที่จะได้รับการเคารพบูชานอกจากพระผู้เป็นเจ้าเพียงพระองค์เดียว และพระผู้เป็นเจ้าทรงไม่มีทั้งบริวารหรือพระบุตร การเป็นชาวมุสลิม บุคคลนั้นควรปฏิบัติต่อไปนี้อีกด้วย:
i.เชื่อว่าพระคัมภีร์กุรอานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นพระดำรัสของพระผู้เป็นเจ้าโดยแท้ ซึ่งพระองค์ทรงเป็นผู้เปิดเผย
ii. เชื่อว่าวันพิพากษา (วันฟื้นคืนชีพ) เป็นความจริงและจะมาถึง ตามที่พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสัญญาไว้ในพระคัมภีร์กุรอาน.
iii. ยอมรับศาสนาอิสลามเป็นศาสนาของตนเอง
iv.ไม่เคารพบูชาสิ่งอื่นใดหรือบุคคลใดนอกจากพระผู้เป็นเจ้า
พระศาสดามูหะหมัด ทรงตรัสว่า:
พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดการสารภาพบาปของบุคคลใดบุคคลหนึ่งเมื่อเขาหันมาหาพระองค์เพื่อสารภาพบาปมากกว่าใครคนใดคนหนึ่งในพวกเจ้าที่จะทำเช่นนั้น สมมติว่าเขาขี่อูฐเข้าไปในป่ารกชัฏ และมันได้วิ่งหนีไปจากเขา นำเอาอาหารและน้ำดื่มของเขาไปด้วย ดังนั้น เขาจึงสูญสิ้นความหวังไปอย่างสิ้นเชิงในการได้อูฐกลับมา เขาจึงเดินไปยังต้นไม้และนอนแผ่หลาอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ดังกล่าว (เพื่อรอความตาย) เนื่องจากเขาสูญสิ้นความหวังทั้งหมดที่จะพบอูฐของเขา ต่อมา ขณะที่เขาอยู่ในสภาวะดังกล่าว (สิ้นหวัง) ทันใดนั้น อูฐตัวนั้นได้มาอยู่ตรงหน้าเขา! ดังนั้นเขาจึงคว้าเชือกผูกอูฐเอาไว้และร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความปิติตื้นตัน “โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์คือข้ารับใช้ของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าคือเจ้านายของพระองค์” ความผิดพลาดของเขาเกิดขึ้นจากความปิติอันเปี่ยมล้นของเขานั่นเอง2